WORLD7

BANPU2024

powertime 950x100pxsmed MTI 720x100

 

5348 STA Veerasit

STA โชว์ผลประกอบการ Q1/68 เติบโตแข็งแกร่ง จากแรงหนุนราคายางที่สูงขึ้น และปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 6 ไตรมาสติด เดินหน้ากลยุทธ์บริหารสต๊อกและดำเนินธุรกิจอย่างยืดหยุ่น

          บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (“STA” หรือ “บริษัทฯ”) ประกาศผลงานไตรมาส 1/2568 ที่แข็งแกร่ง ทำรายได้จากการขายและบริการ 34,385 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 689 ล้านบาท เติบโตแข็งแกร่งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากราคายางธรรมชาติและปริมาณการขายยางที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 ไตรมาส รวมถึงราคาถุงมือยางที่เพิ่มขึ้น คาดมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากสหรัฐฯ เพียง 10% และเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากการปรับขึ้นภาษีครั้งนี้ ด้านผู้บริหารมอนิเตอร์สถานการณ์ต่อเนื่อง วางกลยุทธ์มุ่งเน้นบริหารสต๊อกอย่างมีประสิทธิภาพและดำเนินธุรกิจอย่างยืดหยุ่น 

          นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 ของบริษัทฯ เติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้จากการขายและบริการ 34,385 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 3.4% จากไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิ 689 ล้านบาท พลิกจากผลขาดทุนในช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 19.4% จากไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่าผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้น แต่เนื่องจากในไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ มีรายได้พิเศษจากดอกเบี้ยรับคืนจากเงินกู้ระยะยาวจำนวน 483 ล้านบาท ที่ได้รับการสนับสนุนจากการยางแห่งประเทศไทย ทำให้ภาพรวมกำไรลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

          ปัจจัยหลักของการเติบโตมาจาก 2 ส่วน ได้แก่ 1) ราคายางธรรมชาติและถุงมือยางที่เพิ่มขึ้น โดยราคายางแท่ง TSR20 ณ ตลาด SICOM ไตรมาส 1/2568 เฉลี่ยอยู่ที่ 197 เซนต์ต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้น 13% จากราคาเฉลี่ยทั้งปี 2567 ที่ 174 เซนต์ต่อกิโลกรัม และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีราคาเฉลี่ย 196 เซนต์ต่อกิโลกรัม และ 2) ปริมาณการขายยางธรรมชาติรวมทุกประเภทที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 6 ไตรมาสอยู่ที่ 396,955 ตัน เติบโต 24.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 2.6% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นยอดขายจากการส่งมอบยาง EUDR ราว 43,000 ตัน สะท้อนถึงดีมานด์ที่มีต่อเนื่องแม้ชะลอตัวบ้างเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ร้อยละ 9.1 จากร้อยละ 7.9 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และร้อยละ 7.5 จากไตรมาสก่อนหน้า

          นายวีรสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา คาดว่าไม่ได้ส่งผลกระทบกับบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากกลุ่มบริษัทศรีตรัง มีสัดส่วนรายได้จากการขายยางธรรมชาติและถุงมือยางไปยังสหรัฐฯ เพียง 10% ของรายได้รวมในปีที่ผ่านมา และสหรัฐฯ มีการบริโภคยางธรรมชาติเพียง 4-5% ของความต้องการใช้รวมทั่วโลกเท่านั้น เนื่องจากไม่มีฐานการผลิตยางรถยนต์ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยางธรรมชาติถูกจัดอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับยกเว้นจากการปรับขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ครั้งนี้ 

          อย่างไรก็ตาม แม้ผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติของไทยอาจไม่ได้อยู่ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริษัทฯ อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมยางล้อซึ่งอาจมีผลกระทบทางอ้อม โดยสถานการณ์ในช่วงนี้ลูกค้าในไทยและต่างประเทศอยู่ในระหว่างประเมินความชัดเจนจากการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ ของไทยและประเทศอื่นๆ โดยประเมินว่าหากสถานการณ์มีความชัดเจนขึ้น บริษัทฯ จะได้รับผลเชิงบวกด้านคำสั่งซื้อจากการมีความสัมพันธ์ที่ดีและได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตยางธรรมชาติ โดยเฉพาะยางแท่ง (TSR) แล้วเสร็จไปกว่า 90% ของเป้าหมาย 4.0 ล้านตันภายในปี 2569 จากแผนลงทุนที่ดำเนินการมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

          “เรายังคงมุ่งเน้นการบริหารสต๊อกให้มีประสิทธิภาพและรักษาความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ มาตรการภาษี และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ โดยเน้นการสื่อสารกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด และปี 2568 จะเป็นปีที่บริษัทฯ ดึงศักยภาพจากการลงทุนในกำลังการผลิตที่ได้ดำเนินการไปแล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเราจะทยอยเพิ่มอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตของกลุ่มบริษัทศรีตรังในระยะยาว” นายวีรสิทธิ์ กล่าวเสริม

 

 

5348

Click Donate Support Web 

PTG 720x100

MTI 720x100

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

ธกส 720x100

ใจฟู720x100pxAXA 720 x100

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลให้รอบ...
 ก.ล.ต.ร่วมออกบูธในงานมหกรรมการเงิน ครั้ง...
SAM ชูแนวคิด 'ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่...
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุง...
ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับจดทะเบียน 12 DR ใหม่ อ้างอิงห...

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน)
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ลงทุนพิจารณาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน)           สภาพ...

Read more

ก.ล.ต. ร่วมออกบูธในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 25 (MONEY EXPO 2025)
 ก.ล.ต.ร่วมออกบูธในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 25 (MONEY EXPO 2025)        นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรร...

Read more

SAM ชูแนวคิด'ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน'เปิดบูท'มันนี่ เอ็กซ์โป 2025'จัดโปรฯ เด่นทรัพย์มือสอง พร้อมช่วยลูกค้าปรับหนี้ NPL และ'คลินิกแก้หนี้ by SAM'
SAM ชูแนวคิด 'ส่งมอบโอกาสเพื่อคนไทย เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน' เปิดบูท'มันนี่ เอ็กซ์โป 2025' จัดโปรฯ เด่นทรัพย์มือสอง พร้อมช่วยลูกค้าปรับหนี้ NPL และ...

Read more

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหน่วยการซื้อขาย (Board Lot) หุ้นที่มีราคาปิดตั้งแต่ 50 บาท 6 เดือนติดต่อกัน และกรอบราคาต่ำสุด (Floor) หุ้นเข้าใหม่ ถึง 13 มิ.ย. นี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหน่วยการซื้อขาย (Board Lot) หุ้นที่มีราคาปิดตั้งแต่ 50 บาท 6 เดือนติดต่อกัน และกรอบราคาต่ำสุด (Floor...

Read more

ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับจดทะเบียน 12 DR ใหม่ อ้างอิงหุ้น Magnificent 7 – Terrific 10 ออกโดย BLS เริ่มซื้อขาย 15 พ.ค. นี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับจดทะเบียน 12 DR ใหม่ อ้างอิงหุ้น Magnificent 7 – Terrific 10 ออกโดย BLS เริ่มซื้อขาย 15 พ.ค. นี้         &nb...

Read more