กรมประมง จับมือ ม.เกษตร เปิดเกมรุกยกระดับสินค้าประมง ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยกลยุทธ์การขายยุคใหม่
กรมประมง จับมือ ม.เกษตร เปิดเกมรุกยกระดับสินค้าประมง ขยายโอกาสทางการตลาด ด้วยกลยุทธ์การขายยุคใหม่
กรมประมงร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ 'ตลาดนำ สร้างรายได้ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าประมงคุณภาพ' เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านการตลาด และขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าประมงคุณภาพสู่ผู้บริโภค โดยมี นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง และ ผศ.ดร.ธงรบ รื่นบรรเทิงคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย คณะผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงานร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมพะยูน อาคารจุฬาภรณ์ กรมประมง
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงมุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบาย 'ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม
เพิ่มรายได้' ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานสินค้าประมงเพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ภายใต้ตราสัญลักษณ์ประมงธงเขียว ซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีความสด สะอาด ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมการกระจายสินค้าประมงคุณภาพสู่ผู้บริโภค ผ่านการดำเนินงานร้าน Fisherman Shop เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
สำหรับ การลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ'ตลาดนำ สร้างรายได้ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าประมงคุณภาพ' ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้านการแปรรูปสัตว์น้ำ เพิ่มขีดความสามารถทางการตลาดและขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าประมง โดยถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านต่างๆ อาทิ เทคโนโลยีการแปรรูปสัตว์น้ำ การจัดการหลังการจับ การปรับปรุงบรรจุภัณฑ์และฉลาก การยกระดับสุขลักษณะที่ดีในการผลิต รวมถึง การพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐานและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค
พร้อมทั้งดึงจุดเด่นและเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์มาสร้างสรรค์เรื่องราวให้มีความน่าสนใจ เพื่อสร้างความแตกต่างและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ซึ่งนำเสนอผ่านช่องทางของทั้งสองหน่วยงานเพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ในวงกว้าง รวมถึงการบูรณาการความร่วมมืออื่นๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกร
ด้าน ผศ.ดร.ธงรบ รื่นบรรเทิง คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับมอบหมายจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นผู้ลงนาม กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับและแสดงศักยภาพของ
คณะมนุษยศาสตร์ในการบูรณาการองค์ความรู้ด้านภาษาและการสื่อสารไปสร้างเรื่องเล่าสีเขียว (Green Storytelling)
โดยคณะมนุษยศาสตร์จะลงพื้นที่ให้การบริการวิชาการและเรียนรู้วิถีชีวิตและวิถีการผลิตชุมชนประมงพื้นบ้านไทยร่วมกับกรมประมง เพื่อนำมาถ่ายทอดสู่การสื่อสารสมัยใหม่ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแพร่หลายและครอบคลุม ซึ่งเชื่อว่าการบูรณาการทั้งความเป็นวิทยาศาสตร์และมนุษยศาสตร์เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชนประมงพื้นบ้านครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าและยกระดับสินค้าประมงของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่น่าสนใจและสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ เรื่องเล่าสีเขียว (Green Storytelling) ที่คณะมนุษยศาสตร์จะใช้เป็น
แนวทางการสื่อสารสินค้าประมงไทยครั้งนี้ จะมุ่งให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนกับทรัพยากรธรรมชาติ ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม และวิถีการผลิตที่ยั่งยืนของสินค้าประมงพื้นบ้าน เพราะการสร้างสรรค์เนื้อหา (content) ในลักษณะนี้
คณะมนุษยศาสตร์เชื่อว่า จะมีส่วนช่วยสร้างอัตลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์ เพิ่มความน่าเชื่อถือ
และเชื่อมโยงผู้บริโภคเข้ากับแหล่งผลิตพื้นบ้านได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้ง ยังเป็นการสนับสนุนการสร้างตลาดที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วย การดำเนินงานร่วมกับกรมประมงครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการผสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ได้ผลักดันให้เกิดการบริการวิชาการอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในหลายมิติ
อธิบดีฯ กล่าวในตอนท้ายว่า...การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างกรมประมงและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการผนึกกำลังขับเคลื่อนการยกระดับสินค้าประมงด้วยกลยุทธ์ทางการตลาด
จากคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพทางความคิด สามารถสร้างความโดดเด่นให้สินค้าท่ามกลางตลาดที่มีการแข่งขันสูงและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าประมงที่ผ่านการคัดสรร ทั้งด้านคุณภาพและความปลอดภัย นำไปสู่การสร้างรายได้และสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจให้เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน
