SME ไทย จะทำอย่างไรเมื่อ กำลังขาดออกซิเจน !!!
SME ไทย จะทำอย่างไรเมื่อ กำลังขาดออกซิเจน !!!
ตลอดหลายปีที่ผมได้มีโอกาสพบปะ พูดคุย และทำงานใกล้ชิดกับผู้ประกอบการไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจ SME ผมได้เห็นทั้งความตั้งใจ ความพยายาม และความอดทนในการยืนหยัดอยู่ในระบบเศรษฐกิจ ทั้งที่ต้องเจอกับอุปสรรคสารพัด ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่สูงขึ้น ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น หรือกฎเกณฑ์ที่ไม่เอื้อต่อการเติบโต
ในช่วงหลังมานี้ ผมสัมผัสได้ชัดเจนว่า SME หลายราย 'เหนื่อยมาก'
ไม่ใช่ เพราะทำธุรกิจไม่ดี แต่เพราะ 'เดินอยู่ในสนามที่ไม่เท่ากัน'
ทั้งที่มีความสามารถ มีของ มีใจ แต่ไม่มีทางให้วิ่งต่อ
ในฐานะที่ผมอยู่ในบทบาทที่มีโอกาสสะท้อนเสียงของภาคเอกชนไปยังภาครัฐ ผมจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อเล่าถึงปัญหาที่ SME ไทยกำลังเผชิญ พร้อมเสนอแนวทางบางประการที่ผมเชื่อว่า หากลงมือทำอย่างจริงจัง จะช่วยให้ SME ของเรากลับมายืนได้อย่างมั่นคง และเติบโตได้อย่างยั่งยืน
SME เส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจไทยที่เริ่มอ่อนแรง :
ธุรกิจ SME ไม่ได้เป็นแค่ผู้ประกอบการรายย่อย แต่คือกลุ่มที่สร้างงานให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ และเป็นผู้บริโภคหลักในระบบเศรษฐกิจ หาก SME สะดุดเมื่อใด กำลังซื้อหาย รายได้หด การจ้างงานหยุด และเศรษฐกิจทั้งระบบก็ชะงักตามไปด้วย
และในวันนี้ SME ไทยกำลังเผชิญกับปัญหาหนักหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่อง 'สภาพคล่อง' บางรายมีออเดอร์แต่ไม่มีทุนหมุน บางรายมีไอเดียแต่ไม่มีแหล่งทุนเริ่มต้น บางรายมีหนี้สะสมจากช่วงโควิด แต่ยังหาทางปรับโครงสร้างไม่ได้ บางรายมีศักยภาพจะโตแต่ติดกฎระเบียบหรือเข้าถึงบริการไม่ได้
ทางออกต้องไม่ใช่แค่ 'เยียวยา'แต่ต้อง'เปลี่ยนโครงสร้าง' :
ผมไม่อยากเห็นการแก้ปัญหาแบบปะติดปะต่อ หรือแค่ให้เงินช่วยไปครั้งหนึ่งแล้วจบ แต่สิ่งที่ SME ต้องการ คือระบบสนับสนุนที่ช่วยให้ 'ลุกได้'และ 'วิ่งต่อได้'
เลยขอนำเสนอแนวทางที่ผมอยากแชร์ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ช่วยกันคิด และเดินหน้าต่ออย่างเป็นรูปธรรมครับ
1). เปิดทางให้ SME เข้าถึงแหล่งทุนที่เหมาะกับเขาจริง ๆไม่ใช่แค่ปล่อยกู้ แต่ต้องมี Soft Loan ดอกเบี้ยต่ำ มีระบบค้ำประกันสินเชื่อที่เข้าใจ SME และ มี Venture Capital และ Crowdfunding ที่เติบโตจริง ไม่ใช่แค่ตั้งไว้เป็นนโยบาย
2). ทำให้ SME รู้ว่า 'ไม่เดินคนเดียว'ผมมองว่าการจัดทีม Mentoring ที่มีคนมีประสบการณ์คอยช่วยอย่างที่ มีการฝึกอบรมการจัดการธุรกิจให้เข้มข้นแต่เข้าถึงได้ง่าย รวมถึงสร้าง One Stop Service ที่ไม่ต้องวิ่งหาหลายหน่วยงาน ส่วนนี้จะช่วย SME ได้มากครับ
3). Startup ก็คือ SME ที่อยากเติบโตแบบใหม่ๆ ดังนั้น เราต้องสนับสนุนตั้งแต่ทุนเริ่มต้น (Seed Fund) ไปจนถึงการขยายธุรกิจ
4). ปลดล็อกกฎระเบียบที่ขวาง SME ในช่วงที่ผ่านมา ผมเจอผู้ประกอบการจำนวนมากที่ติดแค่ขั้นตอนการขออนุญาตหรือข้อกฎหมายที่ล้าสมัย วันนี้เราต้อง 'กล้าปรับ'เพื่อให้การเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายขึ้น
5). ช่วย SME ที่มีปัญหาหนี้ให้มีโอกาสเริ่มใหม่ ทั้งการจัดทีมเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ ระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ ถ้าต้องมีกฎหมายเฉพาะ เพื่อให้รัฐมีบทบาทในการอำนวยความสะดวก ผมคิดว่าเราควรทำ รวมถึงการส่งเสริมให้มีบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ภาคเอกชน เพื่อเคลียร์หนี้เสียในระบบและคืนความสามารถในการปล่อยกู้ให้ธนาคาร
สิ่งเหล่านี้จะเป็นจริงได้ ก็ต่อเมื่อ 'เราร่วมมือกัน'อย่างจริงจัง
ผมเชื่อว่า หลายท่านมีข้อเสนอแนะที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ แต่สิ่งเหล่านั้นจะไม่มีวันสำเร็จ หากไม่มีการประสานระหว่างหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการเงินอย่างเป็นระบบ
ผมอยากย้ำว่า… SME ไม่ใช่ภาระของระบบเศรษฐกิจ แต่คือพลังสำคัญที่จะพาเศรษฐกิจไทยเติบโตจากฐานราก หากเราช่วยกันเปิดทาง ลบอุปสรรค และสนับสนุนอย่างจริงใจ ผมเชื่อว่า SME ไทยจะกลับมายืนได้ และแข็งแรงยิ่งกว่าที่เคยเป็น
ประเทศไทยจะมั่นคงได้ ก็ต้องมั่นใจว่า'รากฐาน'ของเรายังแข็งแรง และ SME ก็คือรากฐานนั้นครับ
สนั่น อ้งอุบลกุล ประธานกรรมการอาวุโสหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
