ส่องผลงาน 2 แชมป์ 7 Innovation Awards 2025 เปลี่ยนผลผลิตจากไร่นาและห้องแล็บด้วยนวัตกรรม ดันสินค้าไทยสู่ตลาดโลก ‘พาสต้าถั่วเขียวออร์แกนิค และ Hair Rise’

          ในยุคที่การดูแลสุขภาพกลายเป็นไลฟ์สไตล์ระดับโลก กระตุ้นให้วงการ SME ไทยโชว์พลังคิด พลังทำ! ร่วมส่งผลงานเข้าแข่งขันสุดยอดนวัตกรรมเวที “7 Innovation Awards 2025” รวม 180 ผลงาน เพื่อเฟ้นหานวัตกรรมที่ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมไทย โดย พาสต้าถั่วเขียวออร์แกนิค จาก ข้าวดินดี และ “Hair Rise” สเปรย์ป้องกันผมร่วง และกระตุ้นผมงอกใหม่ จาก พีทูเอ อินโนเวชั่น ได้รับรางวัลชนะเลิศในประเภท “นวัตกรรมเพื่อสังคม” และ “นวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ” ตามลำดับ ตอกย้ำพลังคนตัวเล็กที่คิดใหญ่ และลงมือทำจริง และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยในหลายมิติ

 

          พาสต้าถั่วเขียวออร์แกนิค จากข้าวดินดี – ช่วยเหลือเกษตรกรบ้านเกิด – ยกระดับถั่วพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ดระดับโลก

 

 

          เริ่มต้นจากแชมป์รางวัลสุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Awards 2025 ด้านสังคม ที่ช่วยยกระดับรายได้ให้แก่เกษตรกรในจังหวัดบ้านเกิด พร้อมใส่นวัตกรรมยกระดับคุณค่าทางอาหารให้ผู้บริโภค โดยวัชรากร กิจตรงศิริ ผู้ก่อตั้งและกรรมการบริษัท ข้าวดินดี จำกัด เล่าว่า พื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีที่ย้ายไปอยู่อำเภออำนาจเจริญตั้งแต่ยุคที่ยังไม่แยกตัวออกมาเป็นจังหวัด ได้มีโอกาสเห็นปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ เนื่องจากไม่มีชลประทาน จึงทำนาน้ำฝนได้เพียงปีละครั้ง ปีไหนฝนดีก็ได้ผลผลิตดี ปีไหนฝนไม่ดีก็ได้ผลผลิตไม่ดี แถมราคาข้าวก็ถูกกำหนดโดยผู้ส่งออกว่าจะรับซื้อที่ราคาเท่าไหร่ เขาจึงอยากหาวิธีช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการทำสินค้าแปรรูป และรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร โดยไม่ต้องอิงราคาที่ใครสั่งมา

          “แรกเริ่ม เราเริ่มด้วยพาสต้าจากข้าว จากนั้นค่อยๆ นำนวัตกรรมมาจับ แล้วพัฒนาเป็นพาสต้าถั่วเขียวออร์แกนิคในปี 2561 เพราะเรามองว่าถั่วเขียวจะเข้ามาแก้ปัญหาให้แก่ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค ได้แก่ 1.พืชหลังนา ช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตและรายได้เพิ่มขึ้นนอกช่วงเวลานาข้าวปกติ 2.สินค้าทดแทนกลูเต็น ช่วยให้ผู้บริโภคที่แพ้กลูเต็นจากข้าวสาลียังสามารถรับประทานพาสต้าได้ และ 3.ซูเปอร์ฟู้ด ช่วยเพิ่มโปรตีนและสารอาหารต่างๆ เช่น ใยอาหาร วิตามินบี เข้าไปในเส้นพาสต้า เพิ่มคุณค่าให้คนรับประทาน” 

 

 

          ที่ผ่านมา ข้าวดินดี ได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) นำถั่วเขียวสายพันธุ์ KUML ที่เกิดจากการวิจัยร่วมกันกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ลงไปให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ เพราะเป็นสายพันธุ์ที่สุกพร้อมกัน สะดวกต่อการเก็บเกี่ยว เมล็ดใหญ่ ทนแล้ง ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่มีความรู้ในการเพาะปลูกและลดต้นทุนในการดูแล

          ปัจจุบัน พาสต้าออร์แกนิค ของข้าวดินดี รับซื้อถั่วเขียวจากเกษตรกรปีละกว่า 20-30 ตัน ช่วยสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนกว่า 6 ล้านบาทต่อปี แปรรูปกลายเป็นสินค้าพาสต้า 8 รายการ และยังนำพานวัตกรรมสินค้าแปรรูปไทยไปสู่เวทีโลก ด้วยสัดส่วนการส่งออกถึงราว 80% ไปยังหลากหลายประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และอังกฤษ มีรายได้ปีละมากกว่า 10 ล้านบาท โดยยังคงมองโอกาสขยายตลาดในไทย เพื่อให้ผลผลิตจากพี่น้องเกษตรกรภาคอีสานถึงมือผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้น

          ด้วยแนวคิดที่ก้าวข้ามกำไร ไปสู่การพัฒนาแบบ win-win ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และสังคม พาสต้าถั่วเขียวออร์แกนิคจึงคว้ารางวัลชนะเลิศ “สุดยอดนวัตกรรมเพื่อสังคม” ได้อย่างคู่ควร และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการ SME ไทยอีกมากมาย 

 

          Hair Rise จากพีทูเอ อินโนเวชั่น - งานวิจัยไทยเพื่อเส้นผมที่แข็งแรง สู่ธุรกิจที่สร้างรายได้ให้ชุมชนยั่งยืน

 

 

          อีกหนึ่งผลงานที่คว้ารางวัลชนะเลิศ สุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Awards 2025 ด้านเศรษฐกิจ คือ Hair Rise นวัตกรรมสเปรย์ลดผมร่วงและกระตุ้นผมใหม่ ที่พัฒนาโดย รศ.ดร.ภญ. วรินทร รักษ์ศิริวณิช อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้ก่อตั้งบริษัท พีทูเอ อินโนเวชั่น จำกัด 

          เพราะเชื่อว่างานวิจัยไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก แค่ต้องได้รับโอกาส ได้เวที และการสนับสนุนที่เหมาะสม Hair Rise คือผลลัพธ์ของการวิจัยต่อเนื่องกว่า 20 ปี ที่ใช้สมุนไพรไทยหลากชนิด เช่น รำข้าว 7 สายพันธุ์ กาแฟ ใบฝรั่ง หอมแดง ชะเอมเทศ มาสกัดและรวมกันเป็นสารออกฤทธิ์เฉพาะ “Hair Rise Complex” ที่ออกฤทธิ์ตรงบริเวณรากผม ไม่ซึมเข้าสู่ระบบร่างกาย ทำให้ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง

          รศ.ดร.ภญ.วรินทร เล่าว่า จุดเริ่มของ Hair Rise ไม่ได้มาจากแผนธุรกิจ แต่เกิดจากความมุ่งมั่นอยากเห็นงานวิจัยไทย “เข้าสู่ชีวิตจริง” อยากให้นักศึกษาเห็นว่างานวิจัยที่ทำ “ขายได้จริง และแก้ปัญหาให้คนได้จริง” แนวคิดงานวิจัยเกิดจากการรวมทุกปัจจัยของปัญหาผมร่วงไว้ในขวดเดียว ตั้งแต่กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน ความเครียด สารเคมี ไปจนถึงโภชนาการ จากนั้นจึงขยายเป็นธุรกิจ มีพาร์ทเนอร์มาช่วยเรื่องการทำธุรกิจ การออกแบบแพ็คเกจจิ้ง และการขายในตลาดออนไลน์ต่างๆ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ ในตลาดออนไลน์ ในปีแรกสามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 32 ล้านบาท

          นอกจากความสำเร็จด้านยอดขาย Hair Rise ยังส่งเสริมรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน เช่น เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย จากการรับซื้อวัตถุดิบในราคาสูงกว่าตลาดทั่วไป รวมถึงการทำ “Contract Farming” กับชาวนาในเครือข่าย ทำให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงเศรษฐกิจและสังคมไปพร้อมกัน

 

 

          Hair Rise ปัจจุบันมี 4 รายการ ได้แก่ สเปรย์ขนาด 100 มล. / 20 มล., โรลออน และแชมพู เร็วๆ นี้เตรียมออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อดูแลครบวงจร “ภายใน-ภายนอก” ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทำงาน วัยเกษียณ ที่เป็นกลุ่มผู้ใช้งานหลักในปัจจุบัน

          การคว้ารางวัลครั้งนี้ของทั้ง 2 SME คือการตอกย้ำว่า “นวัตกรรมจากคนตัวเล็ก” มีศักยภาพในการขับเคลื่อนประเทศ หากได้รับโอกาสจากเวทีที่มองเห็นคุณค่า เช่น “7 Innovation Awards” ซึ่งจัดโดย เซเว่น อีเลฟเว่น ร่วมกับพันธมิตรจากภาครัฐและเอกชน ที่ร่วมกันสนับสนุน SME ไทยให้เติบโตบนฐานของความคิดสร้างสรรค์ ความยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคม คือหนึ่งในกลไกที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมไทยจากห้องวิจัยและไร่นา สู่ห้างร้านและตลาดโลกยั่งยืน

 

#CPALL #7Eleven #เซเว่น #SME #SMEโตไกลไปด้วยกัน #7InnovationAwards

 

 

7129

Click Donate Support Web