ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน
G-Token สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ตั้งข้อกังวล 10 ข้อการกำหนดเกณฑ์
แบบตอบ เอกสารรับฟังความคิดเห็น เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token : G-Token)
กรณี สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับโทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Government Token : G-Token) โดยเห็นว่า จะเป็นการสนับสนุนและส่งเสริมการเพิ่มทางเลือกและโอกาสด้านการออมและการลงทุนของประชาชนอย่างทั่วถึง รวมถึงการนำประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการระดมทุนและลงทุนในตลาดทุนไทย และเพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่อนุมัติการดำเนินการของกระทรวงการคลังในการออกและดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับ G-Token นั้น
การนี้สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ขอแสดงเจตนารมณ์ ต่อกรณี ดังกล่าว ว่า สมาคมฯ ตระหนักถึงความจำเป็นในการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ ให้สอดคล้องกับพัฒนาการใหม่ๆของตลาดทุนไทย เช่น พัฒนาการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พัฒนาการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพ ในการระดมทุน ลดภาระในการออกตราสาร เพิ่มความหลากหลายของผู้ลงทุน บนพื้นฐานความเท่าเทียมในการลงทุน และการดูแลผู้ลงทุนอย่างเพียงพอ รวมทั้งเปิดให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์สามารถเพิ่มทางเลือกในการให้บริการแก่ผู้ลงทุน อันจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในตลาดทุนไทยอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การเปิดรับฟังความคิดเห็นในครั้งนี้ สมาคมฯ มีข้อกังวล ในเรื่องของการกำหนดเกณฑ์โดยรอบคอบ ดังนี้
1. พัฒนาการเรื่องการลงทุนที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นเรื่องใหม่ของสังคมไทย การเปิดรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุน ที่ใช้มาตรฐานเกณฑ์ปกติ ให้โอกาสแสดงความคิดเห็นเพียงแค่ 15 วัน เป็นเรื่องที่อาจต้องทบทวน โดยควรพิจารณาระยะเวลาในการเปิดรับฟังความคิดเห็นให้สอดคล้องกับความสำคัญของแต่ละเรื่อง เรื่องใดที่เป็นเรื่องใหญ่ และใหม่มาก ควรมีระยะเวลาที่มากขึ้น และควรมีการให้ข้อมูล ความรู้ ความเข้าใจต่อนักลงทุนที่มากเพียงพอควบคู่ไปด้วย
2. แม้จะเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล แต่องค์กรที่เกี่ยวข้องพึงระมัดระวังด้วยความรอบคอบในการกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในระยะยาวในอนาคต โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน เป็นสำคัญ
3. แม้การออก G-Token จะเป็นไปตาม มาตรา 10 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 โดยการกู้เงินครั้งนี้ จะเป็นไปตามกรอบวงเงินกู้ เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ตามพ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะฯ แต่หน่วยงานผู้ออกตราสาร พึงต้องตระหนักถึงเรื่องการรักษาไว้ซึ่งวินัยการเงินการคลัง วินัยการก่อหนี้สาธารณะที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อประเทศในอนาคต รวมถึงควรมีการกำหนดกรอบวงเงินที่ชัดเจนในการออกแต่ละครั้ง เนื่องจาก หากขยายวงเงินมากขึ้นเรื่อยๆ อาจกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ กระทบตลาดเงิน ค่าเงินบาท GDP ประเทศ ซึ่งจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศในที่สุด
4. การออก G-Token เป็นเรื่องใหม่ที่ประเทศไทยยังไม่เคยดำเนินการมาก่อน จึงควรให้ความรู้กับนักลงทุน และประชาชนอย่างเพียงพอ เนื่องจากโอกาสที่ผู้ซื้อไม่เข้าใจระบบกลไกสินทรัพย์ดิจิทัลและการเข้าถึง อาทิ กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งหากเกิดความเสียหาย และไม่สามารถรับความเสี่ยงได้
5. การออก G-Token จะเกี่ยวข้องทั้งการเสนอขายในตลาดแรกและการให้บริการ
G-Token ที่เกี่ยวข้องในตลาดรอง จึงควรให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ กลไกการซื้อขายในตลาดรอง โดยเฉพาะราคาซื้อขายที่มีความซับซ้อนกว่าตราสารทุน เพื่อป้องกันความเสียหายจากความเข้าใจผิด หรือความไม่รู้
6. ควรมีกลไกในการป้องกันการสร้างราคา โดยการสร้างอุปสงค์เทียม เพื่อหาประโยชน์จากความไม่เข้าใจของผู้ลงทุน และการ Arbitrage เนื่องจากอาจมีการแต่งตั้งศูนย์ซื้อขายมากกว่า 1 แห่ง
7. ควรมีหน่วยงานกลางในการประกาศราคาอ้างอิง (Indicative price) ที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับ และกำหนดให้ศูนย์ซื้อขายทุกแห่ง เปิดเผย Indicative price ของหน่วยงานกลาง ไม่ใช่แต่ละศูนย์ซื้อขายประกาศกันเอง เพื่อป้องกันความสับสนต่อผู้ลงทุน
8. ควรมี Market Maker ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นทางการและมีหน้าที่อย่างชัดเจนใน
การสร้างสภาพคล่องและป้องกันการครอบงำ (Manipulate) ราคาในตลาดรอง
9. นักลงทุนได้มีข้อสังเกตเกี่ยวกับระบบที่รองรับ เนื่องจากยังไม่เห็นความชัดเจนจาก สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) และหน่วยงานกำกับดูแล ในการกำหนดหลักเกณฑ์ ที่ควรให้ความสำคัญกับความโปร่งใสในการแต่งตั้งผู้ดำเนินการที่เกี่ยวข้อง เช่น ใช้ Technology ของใคร การดูแล Wallet การชำระราคา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ
10. การกำหนดกฎเกณฑ์ และขั้นตอนบางอย่างเป็นการเฉพาะกิจ อาจจะเป็นการลดทอนความโปร่งใส และกระทบต่อภาพลักษณ์ธรรมาภิบาลของตลาดทุนไทยได้
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ในฐานะองค์กรที่เป็นตัวแทนของนักลงทุนรายบุคคล จึงขอแสดงเจตนารมย์ เกี่ยวกับข้อห่วงใยและความกังวลใจต่ออนาคตของตลาดทุนไทย และประเทศชาติ เพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ และการพัฒนาตลาดทุนไทย ดำเนินมาตรการและกฎเกณฑ์ใดๆ โดยรอบคอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน อันจะเป็นการสนับสนุนให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สงวนลิขสิทธิ์ © 2557 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด